วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ยุทธการรุกรานของไวรัสขนาดใหญ่ที่สุดในโลกได้ถูกเปิดเผยแล้ว

งานวิจัยชิ้นหนึ่งของสถาบัน Weizmann ได้ทำความเข้าใจใหม่ ๆ ที่สำคัญในเรื่องของกระบวนการการติดเชื้อจากไวรัส ซึ่งการวิจัยนั้นได้ถูกบันทึกไว้ในวารสารออนไลน์ชื่อ PLoS Biology ซึ่งได้เปิดเผยกลไกอันแน่นอนที่ mimivirus (ไวรัสที่ได้ชื่อนี้เพราะว่าแต่เดิมนั้นเราคิดว่ามันสามารถทำการควบคุมแบคทีเรียในหลากหลายแง่มุมของพฤติกรรมของมัน) นั้นบุกรุกเซลล์อะมีบา

เซลล์ของสิ่งมีชีวิตนั้นอยู่ในสภาพติดเชื้อโดยไวรัสได้ในสองขั้นตอน ในขั้นตอนแรก ตัวไวรัสนั้นจะทำการเจาะทะลวงเข้าไปในเซลล์ และต่อมาในขั้นตอนที่สองและเป็นขั้นตอนที่สำคัญนั้น ตัวเซลล์จะเริ่มทำการผลิตไวรัสตัวใหม่มา ซึ่งจะกระจายและทำให้เซลล์อื่นๆติดเชื้อเพิ่มเติม ในช่วงเริ่มต้นของกระบวนการผลิตไวรัสนั้น เซลล์จะสร้างผนังด้านนอกของไวรัส ซึ่งเป็นที่บรรจุของพวกโปรตีนและรู้จักกันว่า capsid ซึ่งหลังจากนั้นเซลล์จะสร้างตัวก๊อปปี้ของ DNA ของไวรัสและบรรจุมันลงไปใน capsid ซึ่งทำให้เกิดไวรัสที่พร้อมทำงานตัวใหม่ขึ้นมาที่พร้อมจะออกจากเซลล์ที่มันอาศัยอยู่และไปทำให้เซลล์อื่นๆติดเชื้อมากขึ้น

การเข้าใจว่าไวรัสทำให้เซลล์ติดเชื้อและไวรัสตัวใหม่ถูกผลิตในช่วงของการติดเชื้อได้อย่างไรนั้นทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเข้าไปรบกวนกับวัฏจักรของการติดเชื้อและสกัดกั้นโรคที่เกิดจากไวรัสได้ อย่างไรก็ตาม หนึ่งความยากลำบากที่เกิดขึ้นก็คือว่า วิธีการที่ไวรัสต่างชนิดใช้บุกรุกนั้นมีความแตกต่างกันอย่างมาก


ตัว mimivirus ที่รู้จักกันท่ามกลางตัวอื่นๆสำหรับขนาดของมันที่ผิดปกติ - ขนาดของมันนั้นใหญ่กว่าไวรัสตัวอื่นๆที่เป็นที่รู้จักกันถึงห้าเท่า - เป็นต้นเหตุให้เกิดความท้าทายที่น่าสนใจในประเด็นดังกล่าว ซึ่งไวรัสชนิดนี้นั้นเพิ่งจะถูกค้นพบในช่วงปลายศตวรรษที่ยี่สิบมานี้ เนื่องจากขนาดที่ไม่ธรรมดาของมันทำให้มันเป็นไปได้ที่จะระบุตัวไวรัสดังกล่าวด้วยวิธีการตามปกติ ยิ่งไปกว่านั้น ตัวมันยังมีสารพันธุกรรมมากกว่าไวรัสชนิดอื่นอยู่มาก เป็นลักษณะเฉพาะที่ทำให้ mimivirus นั้นพัฒนาวิธีการต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีที่จะป้อน DNA เข้าไปในเซลล์ และใส่ “พัสดุ” ทางพันธุกรรมลงไปในตัวบรรจุที่เป็นโปรตีนระหว่างช่วงสร้างไวรัสตัวใหม่ขึ้นในเซลล์ที่มันอาศัยอยู่


ศาสตราจารย์ Abraham Minsky จากสถาบัน Weizmann และเพื่อนร่วมงานของเขาได้เปิดเผยรายละเอียดของวิธีการบางวิธีที่ถูกใช้โดยไวรัสชนิดนี้ ซึ่งในงานวิจัยชิ้นใหม่ของพวกเขานั้น เป็นครั้งแรกที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ได้รับรูปถ่ายสามมิติของช่องเปิดซึ่งสารพันธุกรรมของไวรัสได้ถูกฉีดเข้าไปในเซลล์ที่ติดเชื้อ และของกระบวนการซึ่งสารพันธุกรรมถูกใส่เข้าไปใน capsid ที่เป็นโปรตีนด้วย


ในไวรัสทั้งหมดที่เคยถูกศึกษามาก่อนหน้านี้นั้น สารพันธุกรรมไวรัสนั้นถูกแสดงว่ามันถูกฉีดเข้าไปในเซลล์(ในช่วงที่เซลล์ติดเชื้อ)และสู่ที่บรรจุที่เป็นโปรตีน(ในช่วงที่ผลิตไวรัสตัวใหม่ในเซลล์)ด้วยช่องทางเดียวกัน ซึ่งถูกสร้างขึ้นภายในตัวบรรจุไวรัส ตรงกันข้าม,เหล่านักวิทยาศาสตร์จากสถาบันนั้นค้นพบว่าเจ้า mimivirus ยักษ์นี้นั้นใช้ช่องทางที่ต่างกัน (และมีตำแหน่งแตกต่างกันใน capsid ของมัน) สำหรับเป้าหมายทั้งสอง นักวิทยาศาสตรก็ยังได้ค้นพบว่าเกลียว DNA ในทั้งสองกระบวนการนี้นั้นไม่ได้จับตัวเป็นเส้นไหมยาวๆเช่นในไวรัสชนิดอื่น แต่จัดกลุ่มอัดกันเป็นก้อนอย่างแน่นหนาแทน


นักวิจัยเชื่อว่าคุณสมบติเฉพาะเหล่านี้นั้นจะทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ทั้งการฉีดเข้าไปในเซลล์ใหม่และการฉีดสารพันธุกรรมปริมาณมากใน mimivirus ได้ ซึ่งในการวิจัยของสถาบัน Weizmann นั้นรูปจากกล้องจุลทัศน์อิเล็กตรอนของ mimivirus ที่กำลังบุกรุกเซลล์อะมีบาได้แสดงให้เห็นว่าเพียงหลักจากการบุกรุกนั้น ผนังโปรตีนของ capsid ได้แยกออกจากกันและกันและเปิดออกเหมือนกับกลีบดอกไม้เพื่อสร้างทางเข้าเหมือนรูปดาวที่มีชื่อเรียกเล่นๆว่า “stargate”


ผนังของไวรัสใต้ stargate นั้นรวมตัวเข้ากับเยื่อบุผนังของเซลล์อะมีบา, สร้างช่องทางขนาดกว้างนำไปสู่ข้างในตัวอะมิบา เกิดแรงดันที่ปล่อยออกมาจากผนังที่เปิดอย่างกระทันหันซึ่งมีความรุนแรงมากกว่าแรงดันของการเปิดฝาขวดแชมเปญถึง 20 เท่า ผลักDNAไวรัสเข้าไปในช่องซึ่งขนาดที่ใหญ่ของช่องนั้นทำให้สารพันธุกรรมสามารถผ่านเข้าไปในเซลล์อะมีบ้าได้อย่างรวดเร็ว


นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการศึกษาเกี่ยวกับวัฏจักรชีวิตของ mimivirus ตั้งแต่การติดเชื้อระดับเซลล์ไปจนถึงการผลิตไวรัสตัวใหม่ขึ้นมานั้นอาจให้ความเข้าใจอันมีค่าในเรื่องของกลไกการทำงานของไวรัสอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงตัวที่ทำให้เกิดโรคกับมนุษย์ด้วย

10 เหตุผลของการนำธุรกิจมาเกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต
5 เหตุผล ทำไมคนไม่เข้าเว็บไซต์คุณ
ผู้ใช้คอมพ์เอเชียกลุ่มเสี่ยงติดไวรัสมากที่สุดในโลก
ตลาดเกมมะกันก.พ.ดีด34% DSกลับสู่ผู้นำเฉียด6แสนเครื่อง
Weblog นิวเทรนด์ของสังคมยุคใหม่
สิ่งที่ควรทำเบื้องต้น เมื่อโทรศัพท์มือถือตกน้ำ